สิ่งที่ผู้ใช้งาน Grab และ Uber ควรรู้จากการรวมกิจการของทั้งสองบริษัท

วันนี้ (26 มีนาคม 2018) อูเบอร์ ผู้ให้บริการแอปพลิเคชั่นร่วมเดินทางอันดับหนึ่งของโลกตัดสินใจขายกิจการในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ทั้งหมดให้กับแกร็บ ผู้พัฒนาแอปร่วมเดินทางรายใหญ่ที่มีฐานลูกค้าเป็นจำนวนมากในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ เพื่อแลกกับการเป็นผู้ถือหุ้นในแกร็บ 27.5%

ด้านผู้บริหารของแกร็บออกมาชี้แจงว่า เพื่อให้การควบรวมกิจการลื่นไหล และส่งผลกระทบต่อผู้ใช้บริการ ทั้งผู้โดยสาร และพาร์ทเนอร์ของอูเบอร์ หลังจากวันนี้ 2 สัปดาห์ ผู้ใช้งานอูเบอร์จะยังคงใช้งานแอปได้ตามปกติ และตั้งแต่วันนี้เป็นตันไป ผู้ใช้งานอูเบอร์สามารถใช้ชื่อบัญชีอูเบอร์เดิม เพื่อใช้งานแกร็บได้ทันที

แกร็บถือเป็นแอปพลิเคชั่นร่วมเดินทางที่มีฐานลูกค้าที่แข็งแกร่งในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ดังนั้นการได้ฐานข้อมูลลูกค้า และเทคโนโลยีต่างๆ จากอูเบอร์ จะช่วยให้แกร็บสามารถให้บริการผู้โดยสารได้ดียิ่งขึ้นกว่าเดิม

ขณะที่อูเบอร์เอง ถึงแม้จะไม่ได้ให้บริการแอปในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ แต่การเป็นผู้ถือหุ้นในแกร็บถึงเกือบ 30% ซึ่งเป็นจำนวนหุ้นที่สูงพอสมควร ช่วยให้อูเบอร์สามารถชี้แนะแนวทางการดำเนินธุรกิจ และสร้างความมั่นใจให้กับผู้ใช้งานเดิมว่า บริษัทไม่ได้ทอดทิ้งลูกค้าเก่า ซึ่งเทคโนโลยีต่างๆ ของอูเบอร์ จะส่งต่อไปยังแกร็บเช่นกัน โดยเฉพาะเทคโนโลยีด้านแผนที่

สำหรับผู้ใช้งานอูเบอร์ปัจจุบัน ผมแนะนำว่า "อย่าลบ" แอปอูเบอร์ทิ้ง เนื่องจากหากเราต้องการเดินทางไปต่างประเทศ​ เช่นฮ่องกง ไต้หวัน เกาหลีใต้ ญี่ปุ่น ยุโรป หรืออเมริกา อูเบอร์ยังคงให้บริการในประเทศเหล่านี้อยู่ มีแต่เฉพาะที่เอเชียตะวันออกเฉียงใต้เท่านั้นที่จะต้องใช้แกร็บ

ที่มา: Grab, Reuters