รีวิวนี้เป็นรีวิวแรกที่ผมจะพาไปชมบรรยากาศภายในเลาจน์คาเธ่ย์แปซิฟิกที่สนามบินชางฮี T4 ถึงแม้ผมจะมีโอกาสใช้บริการคาเธ่ย์อยู่บ่อยๆ แต่ว่ายังไม่เคยมีโอกาสเข้าไปใช้บริการเลาจน์นี้เลย เพราะเวลาบินคาเธ่ย์ส่วนใหญ่จะไปใช้เลาจน์ที่ฮ่องกง กับไต้หวันซะมากกว่า ครั้งนี้ได้โอกาสแล้วก็ขอมาใช้บริการเลยละกัน
วันนี้เราจะใช้บริการคาเธ่ย์แปซิฟิกบินกลับกรุงเทพฯ เคาท์เตอร์เช็คอินของคาเธ่ย์อยู่ที่อาคาร T4 ที่สนามบินชางฮี สิงคโปร์
ผู้โดยสารมีตัวเลือกเช็คอินและโหลดกระเป๋าได้ด้วยตนเอง หรือจะใช้บริการกับเจ้าหน้าที่ที่เคาท์เตอร์ก็ได้ สำหรับผมซึ่งเป็นสมาชิก Marco Polo Club ผมเลือกใช้บริการกับเจ้าหน้าที่ที่ช่อง Priority
บอร์ดดิ้งพาสชั้นประหยัดพรีเมียม วันนี้ไฟลท์ดีเลย์ไปเกือบชั่วโมง มีเวลาได้สำรวจอาคาร และเลาจน์นานหน่อย
ผ่านตม.ขาออก และจุดตรวจสัมภาระ มายังภายในพื้นที่สำหรับผู้โดยสารขาออก เลาจน์ของคาเธ่ย์จะอยู่บริเวณชั้นลอย สังเกตป้าย Lounges จากนั้นก็ขึ้นบันไดเลื่อน
ลักษณะป้ายและทางเข้าเลาจน์คาเธ่ย์จะเป็นเอกลักษณ์เหมือนกันทั่วโลก
บรรยากาศโซนรับประทานอาหาร และ Noodle Bar มุมบะหมี่และติ่มซำร้อนๆ บริการซิกเนเจอร์ของคาเธ่ย์ พื้นที่โซนนี้กว้างขวางกว่าเลาจน์ที่สุวรรณภูมิ
ถัดมาเป็นมุมบุฟเฟ่ต์ และเครื่องดื่ม
บริเวณปีกซ้ายของเลาจน์จะเป็นพื้นที่โซฟาสำหรับนั่งพักผ่อน ข้อดีอีกอย่างของเลาจน์คาเธ่ย์ที่ชางฮีคือผู้โดยสารสามารถชมวิวเครื่องบินข้างนอก รวมทั้งวิวบริเวณภายในอาคารผู้โดยสาร ถึงแม้เลาจน์จะอยู่บริเวณชั้นลอย แต่มีกระจกกั้น ช่วยลดเสียงรบกวนจากภายนอกส่วนบริเวณโถงผู้โดยสารขาออก รู้สึกเป็นส่วนตัวกว่าเลาจน์ The Deck ที่ฮ่องกง และเลาจน์ที่สนามบินผู่ตง (เซี่ยงไฮ้)
ต่อไปนี้มุมนี้คือมุมโปรดของผม นั่งโซฟาทำงานสบายๆ ชมวิวเครื่องบิน และวิวอาคารผู้โดยสารไปพร้อมๆ กัน
ภายในเลาจน์จะมีหน้าจอแสดงข้อมูลเที่ยวบิน เฉพาะเที่ยวบินของคาเธ่ย์ และกลุ่ม oneworld ที่ให้บริการจากอาคาร T4 เท่านั้น ไฟลท์ของเรา CX 712 จากเดิมจะต้องออกตอน 14:00 ตอนนี้เปลี่ยนเวลาเป็น 14:50
เมื่อได้เวลาเหมาะสม เราก็เดินไปที่เกทของเราวันนี้ เกท G19 ไม่ต้องตกใจว่าทำไมป้ายถึงขึ้นว่าฮ่องกง เพราะไฟลท์ CX 712 ปลายทางคือฮ่องกง แต่จอดแวะที่กรุงเทพฯ
ถ่ายให้ดูเป็นหลักฐาน ว่าไปกรุงเทพฯ จริงๆ นะ
เครื่องที่เรานั่งกลับกรุงเทพฯ วันนี้คือแอร์บัส A330-300 รุ่นที่มีที่นั่งชั้นธุรกิจ ชั้นประหยัดพรีเมียม และชั้นประหยัด
หน้าตาของชั้นประหยัดพรีเมียม A330-300
ที่นั่งชั้นประหยัดพรีเมียม A330-300 จัดวางแบบ 2-3-2 พื้นที่ว่างระหว่างที่นั่ง 38 นิ้ว และเบาะกว้างประมาณ 19 นิ้ว
ถึงแม้ที่นั่งรุ่นนี้จะใช้งานมาเกือบสิบปีแล้ว แต่สภาพยังดูดีอยู่มาก
สำหรับคนตัวสูง 185 ซม. พื้นที่กว้างสบายมาก นั่งไขว่ห้างยังได้
ปุ่มปรับเอนจะอยู่บริเวณที่วางแขน สำหรับชั้นประหยัดพรีเมียมรุ่นนี้จะมีที่รองน่องเฉพาะแถวแรก ส่วนแถวที่เหลือจะมีแค่ที่พักเท้า แต่ถ้าเป็น A350 จะมีที่รองน่องให้ทุกที่นั่ง
ระบบความบันเทิงเป็นรุ่นที่เก่ามาหน่อย รีโมตหน้าตาประมาณนี้ แต่ยังใช้งานได้ดี ตอบสนองไวอยู่
คู่มือความปลอดภัย และนิตยสาร Discovery
มาดูกันว่าวันนี้หน้าตาอาหารที่เสริฟเป็นอย่างไร
สำหรับชั้นประหยัดพรีเมียม เที่ยวบินภายในภูมิภาค อาหารจะเป็นเมนูเดียวกันกับชั้นประหยัด ถ้าเป็นเที่ยวบินข้ามทวีป อย่างเช่นเที่ยวบินไปยุโรปและอเมริกาจะบริการอาหารต่างกัน โดยจะมีตัวเลือกให้เยอะกว่าชั้นประหยัด และเสริฟถาดใหญ่กว่า ดังนั้นวันนี้เราก็กินแบบธรรมดาๆ แบบนี้ไปก่อน
วันนี้ผมเลือกเมนูหมูตุ๋นผัดซอสสไตล์ฮ่องกง กินคู่กับข้าวสวย และผักต่างๆ
ของหวานเป็นไอศกรีมฮาเกนดาสรสครีมสตอร์เบอรี อร่อยดี
ถึงสุวรรณภูมิ รับกระเป๋าที่สายพาน 23 สายพานสุดท้ายของสนามบิน
คาเธ่ย์แปซิฟิกให้บริการเที่ยวบินไป-กลับ กรุงเทพฯ-สิงคโปร์ ทุกวัน และยังเป็นสายการบิน Full Service ที่มักจะปล่อยโปรโมชั่นในเส้นทางนี้บ่อยๆ บริการโดยรวมถือว่าคุ้มค่า คุ้มราคา ถือเป็นอีกทางเลือกของใครที่อยากเดินทางไปสิงคโปร์
Comments