top of page
ค้นหา
รูปภาพนักเขียนadmin

รีวิว 'ไทยสไมล์' จากสุวรรณภูมิ ไปสุราษฎร์ธานี ปลดล็อกเฟส 5 นั่งติดกันได้แล้ว


รีวิวฉบับนี้พาทุกท่านเดินทางไปกับสายการบิน "ไทยสไมล์" สายการบินน้องสาวของการบินไทย เส้นทาง กรุงเทพฯ (สุวรรณภูมิ) - สุราษฎร์ธานี ในช่วงต้นเดือนมีให้บริการแค่วันละ 1 เที่ยว แต่หลังวันที่ 15 กรกฎาคมนี้เป็นต้นไปจะกลับมาให้บริการวันละ 2 เที่ยวบินตามเดิม


วันนี้ผมเดินทางมาสนามบินสุวรรณภูมิด้วยแอร์พอร์ตลิงค์ เหมือนกับทุกๆ ครั้ง เนื่องจากประหยัดและไม่ต้องเสียเวลารถติด ยกเว้นถ้ามาไฟลต์เช้าตรู่ หรือไฟลต์ดึกๆ จะนั่งแกร็บแทน


ช่วงนี้โซนเช็คอินภายในประเทศคึกคักแล้ว เที่ยวบินภายในประเทศกลับมาให้บริการครบทุกเส้นทางแล้ว สำหรับไทยสไมล์เช็คอินที่แถว D


ปัจจุบันการบินไทยเป็นผู้ให้บริการภาคพื้นของไทยสไมล์ ทั้งตอนเช็คอิน และตอนบอร์ดดิ้ง


บอร์ดดิ้งพาสของไทยสไมล์หน้าตาเหมือนเดิม


เข้ามาบริเวณโซนผู้โดยสารภายในประเทศ มองหน้าจอแสดงผลตอนนี้ไฟลท์ภายในประเทศกลับมาให้บริการเช่นเดิมประมาณ 60% เมื่อเทียบกับช่วงก่อนโควิด แต่ให้บริการครบทุกเส้นทางแล้ว ที่ยังคงขึ้นยกเลิกอยู่เป็นเที่ยวบินที่ยังไม่กลับมาให้บริการ แต่หลังวันที่ 15 ก.ค. ก็จะกลับมาให้บริการเพิ่มเติมอีก โดยเฉพาะของไทยสไมล์ที่จะเพิ่มความถี่ในเกือบทุกเส้นทาง


ช่วงนี้บริเวณร้านค้าของคิงพาวเวอร์บางส่วนปิดปรับปรุง ได้แก่ร้านหนังสือ ร้านขายของที่ระลึก และร้านขายเสื้อผ้า ส่วนร้านขายอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ และ Boots ยังเปิดให้บริการตามปกติ


ตอนนี้ร้านคริสปี้ครีม บริเวณหน้าทางเข้าศูนย์อาหารเปิดให้บริการแล้ว แต่บริเวณด้านในที่มีฟูจิ แมคโดนัล และเบอเกอร์คิงยังคงปิดให้บริการ แต่คาดว่าน่าจะเปิดให้บริการเร็วๆ นี้


อีกร้านที่กลับมาเปิดให้บริการเช่นกันคือ Camden Food Co. ของกลุ่มบุญรอด เป็นร้านกาแฟร้านเดียวที่เปิดให้บริการบริเวณโซนภายในประเทศ ลูกค้าจึงเยอะเป็นพิเศษ


ช่วงนี้มีเพียงแค่ Concourse A ที่เปิดให้บริการ ซึ่งก็สะดวกดีถ้าเราใช้บริการเลาจน์สายการบิน (ตอนนี้ยังมีแค่เลาจน์การบินไทยที่เปิดให้บริการ เลาจน์ของบางกอกแอร์เวย์ยังไม่เปิด) เกต A1-A6 ขึ้นบันไดไป เกต A7-A9 ลงบันไดไปขึ้นบัส


วันนี้เราได้เกต A8 เป็นบัสเกต เป็นรถของการบินไทยพาไปส่งที่ตัวเครื่อง


ไทยสไมล์ให้บริการเครื่องแบบแอร์บัส A320 แบบเดียว เที่ยวบินวันนี้มีผู้โดยสารประมาณ 50-60% เดินขึ้นบันไดจากด้านหน้าของเครื่อง ถึงจะเดินติดๆ กัน แต่ก็ไม่วุ่นวาย


ถ่ายมุมด้านข้างของเครื่องแบบชัดๆ ก่อนก้าวเท้าเข้าเครื่อง มุมนี้ถ้าได้เกตงวงช้างจะถ่ายยากนิด แต่พอได้บัสเกตจะถ่ายได้สวยกว่า


วันนี้ผมเลือกนั่งที่นั่งใกล้กับทางออกฉุกเฉิน จะมีพื้นที่ว่างระหว่างที่นั่งกว้างกว่าแถวอื่นๆ แต่จะเอากระเป๋าวางใต้ที่นั่งไม่ได้ ต้องเก็บขึ้นช่องเก็บของทั้งหมด ที่สำคัญวันนี้เหมาคนเดียวทั้งแถว สบายใจๆ จริงๆ


ความแตกต่างของที่นั่งทางออกฉุกเฉินอีกอย่าง คือบานหน้าต่างจะอยู่ด้านล่าง ถ้าจะปิดต้องดึงขึ้น ถ้าหน้าต่างแถวอื่นๆ บานหน้าต่างจะอยู่ด้านบน ดึงลงเวลาปิด


ผมสูง 185 cm ระยะห่างระหว่างขากับที่นั่งบริเวณแถวทางออกฉุกเฉินจะประมาณนี้


บริเวณกระเป๋าหน้าที่นั่งมีแค่คู่มือความปลอดภัย และถุงขยะ สำหรับที่นั่งบริเวณทางออกฉุกเฉินจะมีคู่มือสำหรับเปิดประตู และคำแนะนำในการช่วยลูกเรือให้เพิ่มเติม


คู่มือความปลอดภัยของเครื่องรุ่น Airbus A320-200 ของไทยสไมล์


ไทยสไมล์จะมีทีวีห้อยลงมาจากแผงเหนือศีรษะ ในทีวีก็จะโชว์วีดีโอบริการต่างๆ และรายการตลกจากต่างประเทศไว้ชมเพื่อผ่อนคลาย


ถ้าไม่ชมทีวีก็ชมวิวสวยๆ ข้างนอกแทน ทุกวันนี้ทุกเที่ยวบินในประเทศยังคงงดเสริฟอาหารบนเครื่อง ดังนั้นก็ชมวิวยาวๆ ไป


เที่ยวบินนี้เวลาบินจริง 50 นาที (เวลาในตารางบินจะประมาณ 1 ชั่วโมง 20 นาที) พอเครื่องเริ่มลดระดับลงก็จะเห็นบรรยากาศทะเลฝั่งอ่าวไทย วันนี้มีเมฆเป็นบางส่วน แต่อากาศแจ่มใส


บรรยากาศก่อนเครื่องลง สำหรับไทยสไมล์ตอนลุกออกจากเครื่อง จะประกาศให้ลุกทีละ 4-5 แถว โดยเริ่มจากแถวหน้าสุดก่อน ก่อนออกจากประตูเครื่องลูกเรือจะแจกน้ำขวดเล็กๆ ให้ 1 ขวด


เครื่องลดระดับลงสู่สนามบินสุราษฎร์ธานี


ที่สนามบินสุราษฎร์ธานีมีสายพานรับกระเป๋าเพียง 2 สายพาน แบ่งเป็นสายพานภายในประเทศ และระหว่างประเทศ ดังนั้นไม่ต้องมาเช็คที่จอว่าลงเครื่องมาแล้วจะต้องมารับที่สายพานไหน พอรับกระเป๋าเสร็จ ก่อนออกจากพื้นที่ตรงนี้ ก็กดสแกนไทยชนะเข้าจังหวัด (แทนการกรอกใบกระดาษ หรือแอป) เพียงเท่านี้ก็เรียบร้อย เข้าไปเที่ยวสุราษ หรือต่อเรือไปพงัน หรือสมุยได้เลย


สำหรับใครที่จะเดินทางต่อเรือไปสมุย หรือพงัน ตอนนี้บริษัทราชาเฟอรี่ กับซีทรานกลับมาให้บริการเรือตามปกติแล้ว สามารถซื้อตั๋วเรือที่สนามบินสุราษได้เลย โดยทั้งสองบริษัทจะมีรถให้บริการจากสนามบินไปท่าเรือ รวมกับราคาตั๋วเรียบร้อยแล้ว เคาท์เตอร์จำหน่ายตั๋วจะอยู่บริเวณทางออกจากจุดรับกระเป๋า ใกล้ๆ กับเคาท์เตอร์รถเช่า


0 ความคิดเห็น

Comments


  • Facebook
  • Twitter
  • YouTube
  • Instagram
bottom of page