รีวิวฉบับนี้ผมจะพาทุกท่านเดินทางกับสายการบิน "คาเธ่ย์แปซิฟิก" เที่ยวบิน CX 619 จากกรุงเทพฯ (สุวรรณภูมิ) ไปสิงคโปร์ โดยคาเธ่ย์ให้บริการเที่ยวบินระหว่างกรุงเทพฯ ไปสิงคโปร์ทุกวัน วันละ 1 เที่ยวบิน
เคาท์เตอร์เช็คอินของคาเธ่ย์ จะอยู่ใกล้ประตูทางเข้า 6 ขาออกมากที่สุด
คาเธ่ย์เปิดให้บริการเคาท์เตอร์เช็คอินสำหรับทุกเที่ยวบินตลอดวัน ตั้งแต่ไฟลท์แรกคือประมาณ 6 โมงเช้า ไปจนถึงไฟลท์สุดท้ายประมาณ 2 ทุ่ม และเป็นเพียงไม่กี่สายการบินในสุวรรณภูมิ ที่มีเคาท์เตอร์เช็คอินแบบถาวร (เพราะให้บริการเที่ยวบินต่อวันเยอะมาก) ตั้งแต่จำความได้คาเธ่ย์ก็อยู่ตรงนี้ไม่เคยไปไหน
วันนี้ผมได้รับการอัพเกรตมานั่งชั้นประหยัดพรีเมียม เนื่องจากชั้นประหยัดที่จองไว้เดิมเต็ม โดยปกติคาเธ่ย์ รวมทั้งสายการบินชั้นนำหลายแห่งจะให้สิทธิอัพเกรตฟรีกับผู้โดยสารที่เป็นสมาชิกสะสมคะแนนระดับสูงๆ ดังนั้นบินค่ายไหนบ่อยก็สมัครค่ายนั้นไว้เลย
ผ่านจุดตรวจสัมภาระ และ ตม. ขาออกแล้วเราก็เดินไปใช้บริการเลาจน์คาเธ่ย์ ตั้งอยู่บริเวณ Concourse G เลาจน์นี้ให้บริการกับสมาชิกสะสมคะแนน Marco Polo Club ตั้งแต่บัตรเงินขึ้นไป (บัตรเงิน Marco Polo Club สะสมยากพอๆ กับบัตรทอง ROP ถ้าเทียบสิทธิประโยชน์แล้วก็ใกล้เคียงกันเลยครับ) รวมทั้งสมาชิกสะสมคะแนนกลุ่มพันธมิตร oneworld ตั้งแต่ระดับ Sapphire ขึ้นไป และผู้โดยสารชั้นธุรกิจในกลุ่มสายการบินพันธมิตร oneworld เช่น British Airways, Qantas, JAL, Qatar, Finnair ก็สามารถใช้เลาจน์นี้ได้
สำหรับรีวิวภาพบรรยากาศในเลาจน์ สามารถเข้าไปชมรีวิวเก่าของผม เส้นทาง กรุงเทพฯ-ฮ่องกง ที่นี่
อีก 40 นาทีก่อนเครื่องจะออก เราก็เดินไปที่เกทของเราวันนี้ เกท E1 ใกล้เลาจน์มากๆ เดินตรงไปแป๊บเดียวถึง
เกท E1 ไฟลท์ CX 619 เครื่องออกตรงเวลาตามตาราง
วันนี้เรานั่งเครื่องรุ่นแอร์บัส A350-900 ซึ่งภายในมาพร้อมกับที่นั่งแบบใหม่ล่าสุดทุกชั้น
หน้าตาของเบาะชั้นประหยัดพรีเมียมก็เป็นแบบนี้ ความกว้างระหว่างที่นั่งที่ 40 นิ้ว ความกว้างของเบาะอยู่ที่ 18 นิ้วกว่าๆ มีไฟอ่านหนังสือ LED ส่วนตัวติดตั้งอยู่บริเวณเบาะรองคอ
แต่วันนี้ผมนั่งที่นั่ง 30C แถวแรกของชั้นประหยัดพรีเมียม จึงได้พื้นที่ว่างกว้างเป็นพิเศษ
ที่ชอบอีกอย่างคือจอทีวีส่วนตัวติดตรงผนัง สามารถเปิดใช้งานได้ตั้งแต่ก่อนเครื่องขึ้น ไม่เหมือนเครื่องบางรุ่นที่จอเก็บไว้ข้างที่นั่ง ต้องรอให้เทคออฟก่อนถึงจะดึงออกมาใช้ได้ ด้านล่างของจอมีช่องสำหรับให้เก็บของด้วย
ชั้นประหยัดพรีเมียมมาพร้อมกับหูฟังลดเสียงรบกวน ใส่สบาย เสียงคมชัด
คู่มือความปลอดภัย และนิตยสาร Discovery ฉบับเดือนกุมภาพันธ์ ปกพาเที่ยวย่านเกาลูนในฮ่องกง
สำหรับอาหารที่ให้บริการในชั้นประหยัดพรีเมียม เที่ยวบินภายในภูมิภาค จะเป็นแบบเดียวกันกับอาหารที่เสริฟในชั้นประหยัด หน้าตาก็จะประมาณนี้
จานหลักมื้อนี้ผมเลือกไก่ผัดซอสสไตล์ฮ่องกง กินคู่กับเข้าสวย และผักชนิดต่างๆ
ของหวานเป็นไอศกรีมฮาเกนดาสรสช็อกโกแลต
เที่ยวบินนี้ใช้เวลาประมาณ 2 ชั่วโมงก็ถึงที่สนามบินชางฮี อาคาร T4 กระเป๋ามาเร็วมาก วิ่งไปรับแทบไม่ทัน
สำหรับใครที่ใช้แอปพลิเคชั่น Grab จุดรับผู้โดยสารจะอยู่ตรง Arrival Pick-Up สามารถเลือกได้ว่าจะให้รถมารับที่ประตู 3 หรือ 4 คนขับรถจะทราบทันทีว่าจุดรับอยู่ตรงไหน เนื่องจากเป็นจุดมาตรฐานที่ Grab กำหนดไว้อยู่แล้ว สบายมากๆ ส่วนค่าบริการ ถ้าเป็น GrabCar ปกติเข้าเมืองไปยังย่าน Bugis, Downtown, Clarke Quay หรือ Chinatown จะอยู่ที่ 15-17 ดอลลาร์สิงคโปร์ บางครั้งอาจจะถูก หรือแพงกว่านี้ บวกลบไม่เกิน 3 ดอลลาร์ ขึ้นอยู่กับสภาพจราจรและจำนวนรถที่ให้บริการ
Comments