รีวิวนี้ผมจะพาทุกท่านไปดูบริการต่างๆ ของ ScootBiz ชั้นพรีเมียมของ Scoot สายการบินโลว์คอสในเครือสิงคโปร์แอร์ไลน์
รอบนี้ผมได้โปรโมชั่นตั๋วราคาพิเศษ เที่ยวละ 3,000 บาทจากนกสกู๊ต พอรวมๆ กันแล้วราคาถูกกว่านั่งชั้นประหยัดของการบินไทย และคาเธ่ย์ ผมเลยอยากลองใช้บริการดูว่าชั้นพรีเมียมของสายการบินโลว์คอสจะต่างกับฟูลเซอร์วิสอย่างไรบ้าง
ScootBiz เป็นชั้นบริการสูงที่สุดของ Scoot ให้บริการเฉพาะบนโบอิ้ง 787 และ 777 ผู้โดยสารในชั้นนี้นอกจากจะได้นั่งที่นั่งที่กว้างกว่า สบายกว่าแล้ว ราคา ScootBiz ยังรวมอาหารร้อน 1 อย่าง + ScooTV (ชมคอนเทนต์ความบันเทิงฟรีผ่าน Wifi) + น้ำหนักกระเป๋า 30 กิโลกรัม และเครื่องดื่มทั้ง Welcome Drink (น้ำเปล่า) และเครื่องดื่มร้อน, เย็นร่วมกับอาหาร
วันนี้ผมมีเวลาแบบสบายๆ เลยตัดสินใจนั่งรถไฟฟ้า MRT จากโรงแรม (สถานี Bugis) ไปยังสนามบินชางงี นั่งสายสีเขียว หรือ East West Line ไป Pasir Ris จากนั้นเปลี่ยนขบวนที่สถานี Tanah Merah ไปยังสนามบินชางงี
วิธีเปลี่ยนขบวนรถง่ายมาก แค่เดินไปยังชานชาลาตรงข้าม จากสถานี Bugis ไปสนามบินชางงีใช้เวลาเพียงครึ่งชั่วโมง
เคาท์เตอร์เช็คอินของ Scoot อยู่ที่อาคาร T2 สนามบินชางงี
ป้ายบอกไฟลท์สุดคลาสสิก ที่สนามบินชางงียังคงใช้อยู่
เที่ยวบินของเราวันนี้คือ TR 868 เป็นเที่ยวบินไปโตเกียว (นาริตะ) แวะดอนเมือง
เคาท์เตอร์เช็คอินแถวปกติของ Scoot คือแถวที่ 10-11 ช่วงค่ำแถวจะยาวมากๆ เนื่องจากเป็นช่วงที่เที่ยวบินไปอินเดียกับจีนจะเยอะเป็นพิเศษ รวมทั้งไฟลท์เส้นทางระยะไกลที่บินแบบข้ามคืน ดังนั้นถ้าใครที่นั่งชั้นประหยัดปกติผมแนะนำให้ทำออนไลน์เช็คอินมาล่วงหน้า แล้วมาส่งกระเป๋าที่เคาท์เตอร์ จะได้ไม่ต้องต่อคิวยาว
สำหรับผู้โดยสารชั้น ScootBiz และผู้โดยสารที่ซื้อบริการ Board Me First สามารถเช็คอินได้ที่แถว 12
สังเกตป้ายนี้ แล้วก็เดินเข้าไปเช็คอินได้เลย สังเกตว่าตรงนี้แถวจะสั้นมาก คนใช้บริการน้อย
ได้บอร์ดดิ้งพาสมาเรียบร้อยแล้ว
Scoot ไม่มีบริการเลาจน์ ผมจึงเดินเล่นในอาคารไปเรื่อยๆ จนใกล้เวลาเครื่องขึ้น จึงเดินมาที่เกตของวันนี้ E20
เครื่องที่จะพาเราไปดอนเมืองคืนนี้คือโบอิ้ง 787-9 ดรีมไลเนอร์
ScootBiz จะอยู่โซนหน้าสุดของเครื่อง บนโบอิ้ง 787-9 จะมีที่นั่ง ScootBiz ด้วยกัน 5 แถว แถวละ 7 ที่นั่ง จัดวางแบบ 2-3-2 แต่ละที่นั่งมาพร้อมกับเบาะกว้าง 22 นิ้ว และระยะห่างระหว่างที่นั่ง หรือ Seat Pitch ที่ 38 นิ้ว คล้ายๆ กับที่นั่งชั้นประหยัดพรีเมียมของสายการบินฟูลเซอร์วิส
วันนี้ผมนั่งที่นั่ง 5H แถวสุดท้าย
คู่มือความปลอดภัยบนโบอิ้ง 787
เมนูอาหาร, แคตาล็อกสินค้าปลอดภาษี, นิตยสาร Scoot, และคู่มือระบบความบันเทิงผ่าน Wifi (ScooTV)
พอขึ้นเครื่องปุ๊บ ลูกเรือก็มาแจกน้ำเปล่าให้ 1 แก้ว
ผู้โดยสาร ScootBiz จะได้รับคูปองสำหรับใช้งาน ScooTV วิธีใช้งานเพียงเปิด Wifi จากนั้นในหน้าล็อกอินเข้าใช้ Wifi ให้เข้าไปในเมนู ScooTV แล้วก็กรอกรหัสที่ได้จากคูปอง เพียงเท่านี้ก็สามารถใช้งาน ScooTV ได้แล้ว หรือจะโหลดแอป ScooTV มาใช้งานก็ได้ (สำหรับผู้ใช้ iOS จะต้องโหลดแอป ScooTV ก่อนจึงจะใช้งานได้ ส่วนผู้ใช้งาน Android และโน้ตบุ๊กทั่วไปสามารถรับชม ScooTV ผ่านเว็บเบราเซอร์ได้เลย)
โต๊ะพับจะเก็บไว้ตรงที่วางแขน
กางออกมาได้แบบนี้
ผู้โดยสาร ScootBiz สามารถเลือกอาหารได้ตอนที่จองตั๋วผ่านเว็บไซต์ อาหารร้อนมีให้เลือก 2 อย่าง หรือจะเลือกเป็นอาหารว่าง เช่นแซนวิชแฮมไก่ (แบบที่ผมเลือก) หรือบะหมี่กระป๋องก็ได้ ส่วนเครื่องดื่มผู้โดยสารสามารถเลือกได้ 1 อย่างจากเมนูบนเครื่อง ได้ทั้งเครื่องดื่มร้อนและเย็น ผมเลือกชาเขียวร้อน ของหวานเป็นช็อกโกแลตแท่งผสมคอนเฟล็ค กินเล่นๆ กับชาร้อนก็อร่อยดี
ช้อน ส้อม กระดาษเช็ดมือเป็นแบบพลาสติก
ไฟลท์นี้ออกจากสิงคโปร์ตอน 22:45 ถึงดอนเมืองประมาณ 23:30 เวลาบินจริง 2 ชั่วโมง 5 นาที
บริการ ScootBiz เหมาะสำหรับผู้โดยสารที่ต้องการความสะดวกสบาย แต่ไม่อยากจ่ายเงินซื้อตั๋วชั้นธุรกิจ หรือชั้นประหยัดพรีเมียมของสายการบินฟูลเซอร์วิส เนื่องจากราคาตั๋ว ScootBiz ค่อนข้างใกล้เคียง หรือถูกกว่าชั้นประหยัดพรีเมียมของหลายสายการบิน
ส่วนการให้บริการบนเครื่องอาจจะสู้สายการบินฟูลเซอร์วิสไม่ได้ เนื่องจากอาหารและเครื่องดื่มที่ให้บริการไม่ได้แตกต่างจากชั้นประหยัด เพียงแต่ราคาตั๋วรวมอาหารมาให้เฉยๆ ไม่ต้องซื้อเพิ่มเหมือนผู้โดยสารคนอื่นๆ
ลูกเรือโซน ScootBiz ให้บริการแบบเป็นกันเองมากๆ เหมือนกับลูกเรือชั้นธุรกิจของสายการบินฟูลเซอร์วิส ต่างจากลูกเรือสายการบินโลว์คอสอื่นๆ ที่อาจจะไม่ได้บริการแบบเป็นกันเองขนาดนี้ จุดนี้น่าจะเป็นจุดที่ผมประทับใจที่สุดของเที่ยวบินนี้
Scoot ใช้โปรแกรมสะสมไมล์ KrisFlyer เช่นเดียวกันกับสิงคโปร์แอร์ไลน์ และซิลค์แอร์ แต่ไม่สามารถสะสมไมล์ร่วมกับสายการบินพันธมิตร Star Alliance ได้ โดย 1 สิงคโปร์ดอลลาร์ เทียบเท่ากับ 1 ไมล์สะสม KrisFlyer
コメント