top of page
ค้นหา
รูปภาพนักเขียนadmin

รีวิว: นั่ง Business Class ของ Malaysia Airlines แบบราคาประหยัดไปสิงคโปร์

อัปเดตเมื่อ 3 ก.พ. 2561

เมื่อเดือนธันวาคมที่แล้ว ผมมีโอกาสได้โดยสารชั้นธุรกิจของสายการบิน Malaysia Airlines (Oneworld) ผมได้โปรโมชั่นลดราคาตั๋วเหลือเพียงหมื่นเดียว เกือบเท่าตั๋วชั้นประหยัดการบินไทย แต่ต้องไปเปลี่ยนเครื่องที่สนามบินเคแอล ขาสะสมคะแนนอย่างผมถือว่าคุ้มค่าสุดๆ เพราะได้คะแนนถึง 4 ขา และได้คะแนน Marco Polo ถึง 80 คะแนน ทริปนี้ผมยังมีโอกาสไปใช้บริการเลาจ์ใหม่ของ Malaysia Airlines ที่เปิดให้บริการสดๆ ร้อนๆ ด้วย


มาเช็คอินตั้งแต่ตี 4 เครื่องออก 05:55 เคาท์เตอร์เช็คอินของ Malaysia Airlines จะอยู่แถวเดียวกันกับ Cathay Pacific


มาเช็คอินตั้งแต่ตี 4 เครื่องออก 05:55 เคาท์เตอร์เช็คอินของ Malaysia Airlines จะอยู่แถวเดียวกันกับ Cathay Pacific


ขึ้นเครื่องแล้วแบบตาจะปิด เพราะเมื่อกี้งีบที่เลาจ์ไปนิดหน่อยด้วย


หน้าปกเมนูอาหารเที่ยวบินนี้


นิตยสารบนเครื่องของ Malaysia Airlines คือ Going Places


มนูอาหารเช้านี้คือไส้กรอกไก่ ไขคน ผลไม้สด และโยเกิร์ต ส่วนขนมปังผมเลือกครัวซองท์ ลืมถ่ายมาให้ดูครับ


มาดูฟังค์ชั่นต่างๆ ของที่นั่งกันบ้าง เที่ยวบินในภูมิภาค Malaysia Airlines จะใช้ที่นั่งแบบปรับเอนธรรมดา พร้อมกับที่รองน่อง ปุ่มปรับจะอยู่ตรงนี้


รีโมทควบคุมระบบความบันเทิงส่วนบุคคล


หน้าจอจะอยู่ด้านข้าง สำหรับที่นั่งแถวหน้าสุด


มาถึงสนามบินเคแอลแล้ว ก็มาแวะพักที่เลาจ์ต่อ เลาจ์นี้เป็นเลาจ์ Regional ของ Malaysia Airlines ตั้งอยู่ที่อาคาร Main Terminal


บรรยากาศภายในเลาจ์ใช้สีน้ำตาลครีม ดูสบายตา


ผมชอบที่นั่งมุมนี้มาก สบาย แล้วก็ได้ชมวิวเครื่องบินด้วย


ใกล้เวลาขึ้นเครื่องแล้ว เราเดินไปที่เกทกัน เพราะเกทของเราอยู่สุดทางเลย


ไฟลท์นี้จากเคแอล ไปสิงคโปร์ ได้เครื่องรุ่นเก่า ไม่มีทีวีส่วนตัวครับ


ไฟลท์นี้จากเคแอล ไปสิงคโปร์ ได้เครื่องรุ่นเก่า ไม่มีทีวีส่วนตัวครับ


ปุ่มควบคุมที่นั่งรุ่นเก่าเอนได้อย่างเดียว


ถึงไฟลท์จะสั้นแค่ 45 นาที แต่ชั้นธุรกิจก็มีบริการอาหารว่าง ผมเลือกแซนวิชไก่ อร่อยดีอยู่ครับ


ในภาพรวมผมชอบบริการของ Malaysia Airlines เป็นบริการเรียบง่าย ไม่หรูหรา แต่สะดวกสบาย เครื่องที่บินในรูทภูมิภาคจะเป็น Boeing 737-800 ซึ่งเป็นเครื่องเจ็ทขนาดเล็ก รองรับผู้โดยสารได้ประมาณ 200 คน ดังนั้นที่นั่งชั้นธุรกิจจะไม่ได้ดูหรูหรา ปรับเอนนอนราบไม่ได้ แต่ก็สบายพอกับเที่ยวบิน 2-3 ชั่วโมง พอนั่งชิลๆ ดูหนังฟังเพลงแป๊บๆ ก็ถึงที่หมาย และราคาที่จ่ายไปถือว่าคุ้มค่า เพราะได้ทั้งเข้าเลาจ์ฟรี น้ำหนักกระเป๋า 40 กิโลกรัม รวมทั้งสิทธิ์ในการใช้ช่องทางด่วนพิเศษที่ ตม. และตอนขึ้นเครื่อง (มีประโยชน์มากในช่วงไฮซีซัน) ที่สำคัญ ได้นั่งที่นั่งสบายๆ ไม่ต้องเบียดกับใคร


0 ความคิดเห็น

Comments


  • Facebook
  • Twitter
  • YouTube
  • Instagram
bottom of page