ปัญหาเด็กกรีดร้อง หรือร้องไห้ไม่หยุดขณะโดยสารเครื่องบิน ก่อให้เกิดความทุกข์ทั้งพ่อแม่ของเด็ก และผู้โดยสารรอบข้าง แต่คุณทราบหรือไม่ว่าตัวเด็กที่กรีดร้องมีความทุกข์มากที่สุด แล้วเราจะแก้ไขปัญหานี้ได้อย่างไร?
"ลูกคุณไม่ได้น่ารักสำหรับทุกคน" ประโยคนี้เรามักจะได้ยินบ่อยๆ โดยเฉพาะผู้โดยสารที่พอเห็นเด็กเล็กโดยสารเครื่องบินมาด้วย พวกเขาจะรู้ทันทีว่า เด็กจะต้องแสดงอาการกรีดร้อง หรือทำตัวอยู่ไม่เป็นที่เป็นทาง รบกวนผู้โดยสารที่อยู่บนเครื่องแน่ๆ ถ้าเป็นไฟลท์สั้นๆ ไม่กี่ชั่วโมงยังพอไหว แต่ถ้าเป็นไฟลท์ข้ามทวีป 7-12 ชั่วโมง ถ้าเจอเด็กที่กรีดร้องตลอดเวลาก็คงไม่ไหวแน่
เว็บไซต์ Inside Edition สัมภาษณ์ผู้โดยสารสายการบิน Lufthansa เที่ยวบินระหว่างแฟรงเฟิร์ท ไปยังนิวยอร์ก ระยะเวลา 8 ชั่วโมง เมื่อเดือนสิงหาคมที่ผ่านมา ในเที่ยวบินนั้นมีเด็กชายอายุ 3 ขวบเดินทางมากับแม่ของเขา ซึ่งเด็กออกอาการกรีดร้อง และส่งเสียงรบกวนผู้โดยสารตลอดเวลาขณะอยู่บนเครื่อง ทำให้ผู้โดยสารคนหนึ่งทนไม่ไหว จนต้องถ่ายคลิปพฤติกรรมของเด็กโพสลงบนยูทูบ
คลิปดังกล่าวถูกเผยแพร่เมื่อเดือนธันวาคมที่ผ่านมา แต่เพิ่งจะได้รับความสนใจเมื่อไม่นานมานี้ เนื่องจาก Inside Edition รายการข่าวชื่อดังของสหรัฐฯ สัมภาษณ์ชายชาวอเมริกัน หนึ่งในผู้โดยสารซึ่งโพสคลิปจากเที่ยวบินนี้
เขาอธิบายว่า แม่ของเด็กดูเหมือนจะคุ้นชินกับพฤติกรรมของเด็กไปแล้ว โดยไม่ได้ออกอาการดุ หรือตักเตือนลูกเธอแต่อย่างไร ขณะที่ผู้โดยสารจำนวนมากต่างจับกลุ่มพูดคุย พร้อมกับแจ้งลูกเรือถึงพฤติกรรมของเด็ก จากนั้นลูกเรือจึงมาเตือนแม่ของเด็ก พร้อมกับแจ้งผู้โดยสารคนอื่นๆ ว่าพวกเขาเองก็ไม่สามารถควบคุมพฤติกรรมเด็กได้ จนผู้โดยสารบางคนบอกว่า เที่ยวบินนี้ราวกับเที่ยวบินนรก เพราะพวกเขาไม่สามารถนั่งอย่างสงบได้เลย
พญ.เพรี คลาส คอลัมนิสด้านกุมารเวชของหนังสือพิมพ์ New York Times บอกว่า พ่อแม่ผู้ปกครองไม่ได้รู้สึกสนุกที่พาเด็กเล็กโดยสารเครื่องบิน และตัวเด็กเองก็ไม่ได้รู้สึกสนุกเมื่อต้องขึ้นเครื่องบินโดยสาร เพราะลักษณะทางกายภาพของเด็กไม่ได้ออกแบบมาให้ทนต่อแรงกดอากาศขณะโดยสารบนเครื่องบิน โดยเฉพาะเวลาเครื่องขึ้น และเครื่องลงจอด เด็กจะมีอาการเจ็บหูมากกว่าผู้ใหญ่ และด้วยเด็กยังไม่สามารถอธิบายความรู้สึกที่เกิดขึ้นได้ สิ่งที่พวกเขาจะทำได้คือการร้องไห้ หรือกรีดร้องเสียงดัง เนื่องจากพวกเขารู้สึกไม่สบายเนื้อสบายตัว
พญ.คลาสบอกว่า วิธีที่ช่วยแก้ปัญหาเด็กร้องไห้ หรือกรีดร้องบนเครื่องบิน คือการเตรียมตัวให้พร้อม เช่น เตรียมหนังสือนิทานที่เด็กชอบ อาหารว่างที่เด็กชอบกิน จุกนม หรือของเล่นที่เด็กชอบเล่น เพื่อดึงความสนใจของเด็กออกไปจากอาการปวดหู การเคี้ยวอาหาร หรือดูดจุกนม จะช่วยลดอาการปวดหูของเด็กได้
นอกจากนี้ การให้เด็กกินอาหารให้อิ่ม และนอนให้เพียงพอก่อนเดินทาง จะช่วยลดอาการหงุดหงิดของเด็กเวลาโดยสารเครื่องบิน เนื่องจากพื้นที่บนเครื่องบินมีจำกัด การลดความเครียด และทำตัวเด็กให้รู้สึกสบายที่สุดจะช่วยให้พวกเขาไม่รู้สึกเครียด และอึดอัด
สิ่งสำคัญที่สุดสำหรับพ่อแม่ผู้ปกครอง ก็คือการแสดงออกให้ผู้โดยสารคนอื่นเห็นว่า เราทำดีที่สุดแล้วในการควบคุมให้ลูกอยู่ในอาการสงบ แสดงความจริงใจต่อการแก้ปัญหาให้ผู้โดยสารคนอื่นได้เห็น เพราะจริงๆ แลัวผู้โดยสารถึงแม้เขาจะออกอาการรำคาญ แต่พวกเขาก็รู้สึกเห็นใจ เพราะร่างกายของเด็กและผู้ใหญ่นั้นต่างกัน และพวกเขาพร้อมที่จะช่วยเหลือ
พ่อแม่ผู้ปกครองไม่ควรแสดงพฤติกรรมเมินเฉย หรือปล่อยให้เด็กกรีดร้องตามใจชอบ เพราะนั่นเท่ากับว่า ตัวพ่อแม่เห็นแก่ตัว ไม่ได้ให้ความสำคัญกับส่วนรวม สิ่งที่ตามมาก็คือการถูกผู้โดยสารคนอื่นตำหนิ และมองลูกเราเหมือนมอนสเตอร์ตัวหนึ่ง เช่นเดียวกับที่เกิดขึ้นในคลิปข่าวนี้:
ที่มา: Inside Edition, New York Times
ภาพจาก: JetBlue
Yorumlar