ช่วงเทศกาลปีใหม่ผมเดินทางไปสิงคโปร์ เพื่อนับถอยหลังเข้าสู่ปี 2019 กับเพื่อนๆ และเลือกเดินทางกับสิงคโปร์แอร์ไลน์ด้วยโปรโมชั่นตั๋วโดยสารราคาพิเศษ ช่วงเทศกาลคริสมาสและปีใหม่ผมชื่นชอบการบริการของสิงคโปร์แอร์ไลน์มากๆ จะมีอะไรเป็นพิเศษบ้างเรามาชมกัน
วันศุกร์สุดท้ายก่อนเทศกาลปีใหม่ที่สุวรณภูมิก็จะคึกคักเป็นพิเศษ ผู้โดยสารจะหนาแน่นกว่าปกติ
บริเวณเคาท์เตอร์ของสิงคโปร์แอร์ไลน์ก็มีผู้โดยสารมาต่อคิวรอเช็คอินเยอะพอสมควร ส่วนใหญ่เดินทางต่อไปญี่ปุ่น ยุโรป หรือเส้นทางอื่นๆ ที่เห็นนี้เป็นกรุ๊ปทัวร์ไทยที่จะไปญี่ปุ่น ไฟลท์ผมมีคนต่อเครื่องไปญี่ปุ่นกันเยอะมาก เพราะช่วงเที่ยงคืน ตีหนึ่ง จะมีทั้งไฟลท์นาริตะ และโอซาก้าที่บินออกจากสนามบินชางฮี
หันมาดูเคาท์เตอร์ชั้นธุรกิจ แถวโล่งๆ เรามาเช็คอินตรงนี้กัน
บอร์ดดิ้งพาสไฟลท์ SQ 983 ไปสิงคโปร์ของเราเย็นนี้
ผ่าน ตม. มาแบบสบายๆ ที่ช่อง Premier Lane แล้วมาเลาจน์ SilverKris ของสิงคโปร์แอร์ไลน์ที่ Concourse D กัน (เลาจน์ตั้งอยู่ใกล้กับเกท D7 อยู่ข้างๆ เลาจน์บางกอกแอร์เวย์) เลาจน์นี้ให้บริการกับผู้โดยสารชั้นธุรกิจ ผู้โดยสารบัตรทอง Star Alliance และผู้โดยสาร PPS Club
ข้อดีของเลาจน์สิงคโปร์แอร์ไลน์ที่สุวรรณภูมิ คือปลั๊กไฟที่มีอยู่แทบทุกโต๊ะ ชาร์จแบตมือถือ โน้ตบุ๊กก่อนขึ้นเครื่องสบายๆ ที่สำคัญเก้าอี้นั่งมีค่อนข้างมาก ดูโอ่โถงกว่าเลาจน์การบินไทย
โซนบุฟเฟ่ต์อาหารร้อน และสลัด
มีอาหารร้อนให้เลือกหลายอย่าง ทั้งข้าวสวย ฉู่ฉี่ปลาดอลลี่ ผัดผัก หมูอบซอส สปาเก็ตตี้ ส้มตำไทย และลากซาซีฟู้ด
มื้อเย็นของผม จัดหนัก เพราะค่อนข้างหิว
ทีเด็ดของเลาจน์สิงคโปร์แอร์ไลน์ที่สุวรรณภูมิคือบาร์เครื่องดื่ม ที่มีบาริสต้าให้บริการ มีทั้งเครื่องดื่มแอลกอฮอล ม็อกเทล และกาแฟสดให้บริการ
กินข้าวเสร็จ นั่งทำงานไปสักครึ่งชั่วโมง ก็ได้เวลามาขึ้นเครื่อง วันนี้เครื่องของเราจอดที่เกท D6
ไฟลท์นี้เต็มทุกที่นั่ง (ประมาณ 300 กว่าคน) จากการบอกของพนักงานภาคพื้น
ช่องขึ้นเครื่องพิเศษ สำหรับผู้โดยสารชั้นธุรกิจ และ PPS Club
ที่นั่งของผมวันนี้ 20A ติดหน้าต่างแถวสุดท้ายของชั้นธุรกิจ
ชั้นธุรกิจบนโบอิ้ง 787-10 ดรีมไลเนอร์จัดที่นั่งแบบ 1-2-1 ทุกที่นั่งสามารถเดินเข้าออกมายังทางเดินกลางได้โดยไม่ต้องข้ามผู้โดยสารท่านอื่น และยังสามารถปรับเอนนอนราบได้ 180 องศาด้วย
เส้นทางการบินของเราวันนี้ เวลาที่คาดว่าจะถึงสิงคโปร์ตอนแรกแค่ห้าทุ่มนิดๆ แต่เอาเข้าจริงๆ ปาไปเที่ยงคืนสิบนาที เนื่องจากเครื่อง push back ช้ากว่ากำหนดจริงเกือบครึ่งชั่วโมง เพราะความคับคั่งของเครื่องบินที่สุวรรณภูมิ พอ push back แล้วก็มาติด taxi รอเครื่องขึ้นอีก กว่าจะเทคออฟก็ปาไปสามทุ่มกว่า ไฟลท์ที่ออกช่วงเย็นกับดึกเป็นอย่างนี้ทุกที แก้ปัญหาไม่ได้
ดื่มแชมเปญจ์ welcome drink สักนิดระหว่างรอ push back
ต่อด้วยบริการผ้าร้อน
หน้าตาเมนูอาหารสำหรับช่วงเทศกาล เปลี่ยนแค่ปก แต่เมนูข้างในเหมือนเดิม
ในนี้คือหูฟังตัดเสียงรบกวนที่ใช้ดีมากๆ
เที่ยวบินนี้มีของขวัญพิเศษให้ผู้โดยสารชั้นธุรกิจด้วย ปกติถุงนี้คือถุง amenities kit ที่ใช้ในไฟลท์เส้นทางข้ามทวีป หรือ long haul แต่ว่าสิงคโปร์แอร์ไลน์แจกให้กับผู้โดยสารชั้นธุรกิจช่วงเทศกาลปีใหม่ในเส้นทางภายในภูมิภาคด้วย เดี๋ยวเรามาดูกันว่าข้างในนี้มีอะไร
และนี่คือสิ่งที่อยู่ในถุง ที่น่ารักมากๆ คือเขาให้ถุงพลาสติกใสมาให้ใส่แยกเพื่อตรวจด้วย
นิตยสาร SilverKris ประจำเดือนธันวาคม 2019 และนิตยสาร KrisWorld ซึ่งเป็นคู่มือการใช้ที่นั่ง และระบบความบันเทิงส่วนตัว เดือนนี้มีหนังเข้าใหม่จากค่ายมาเวลคือ Venom
ไฟลท์นี้กว่าจะเสริฟอาหารได้ก็ค่อนข้างนาน เพราะว่าเมฆค่อนข้างมาก สัญญาณรัดเข็มขัดดับช้ากว่าปกติ จากปกติลูกเรือจะมาเดินจดออเดอร์ ไฟลท์นี้ลูกเรือเข็นรถมาเสริฟเลยทีเดียว ประหยัดเวลา มื้อนี้ผมเลือกเมนูปลากับกุ้งราดพริก ทานคู่กับข้าวผัด รสชาติแบบไทยๆ จานรองท้องคือยำเต้าหู้ทอด ส่วนของหวานคือชีสเค้กสไตล์นิวยอร์ก
สิงคโปร์แอร์ไลน์บริการได้ดีเยี่ยมเช่นทุกครั้ง ลูกเรือน่ารัก เป็นกันเอง ที่นั่งสบาย ระบบความบันเทิงทันสมัย มี Wifi ให้ใช้ฟรีด้วย (เฉพาะผดส.ชั้นธุรกิจ)
Commentaires